สงครามการค้า Trade War USA & China 2020

     เป็นข่าวดังไปทั่วโลกสำหรับกำแพงภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้คิดภาษี 25% จากสินค้าที่มาจากจีน เนื่องจากใช้เหตุผลการควบคุมการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ไม่เข้มข้นเท่าที่ควรจะเป็น ซึ่งอเมริกาต้องการใช้จีนบังคับใช้กฎหมายที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสินค้าที่ถูกคิดค้นจากประเทศอเมริกานั้นถูกลอกเลียนแบบอย่างต่อเนื่อง และไม่มีท่าทีว่าจะลดลงหรือมีมาตรฐานป้องกันเพิ่มเติมแต่อย่างใด

สหรัฐมองว่าจีนทำการค้าไม่เป็นธรรม

     เราต่างรู้ดีว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่ผลิตของเลียนแบบอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าสินค้าของประเทศไหน ยี่ห้ออะไร ประเทศจีนก็จะลอกเลียนแบบทำออกมาจำหน่ายให้กับต่างประเทศ โดยไม่สนว่าเจ้าของผู้คิดค้นจะรู้สึกอย่างไร แถมยังผลิตแบบแนบเนียน เรียกได้ว่าเหมือนกับต้นฉบับแบบทุกกระเบียดนิ้ว เว้นก็แต่คุณภาพของสินค้าที่ก็ตามราคา

     ตรงจุดนี้สหรัฐมองว่าเป็นการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม จีนเอาความคิดสร้างสรรค์ของอเมริกาไปสร้างกำไรให้แก่ประเทศของตนเองอย่างไร้จรรยาบรรณ แถมรัฐบาลก็ยังไม่แสดงท่าทีในการเพิ่มมาตรฐานจัดการการกระทำเหล่านั้น เหมือนกับว่าสนับสนุนสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

เพิ่มกำแพงภาษี ลดการนำเข้า

     การเพิ่มกำแพงภาษี ทำให้สินค้าที่มาจากจีนมีราคาสูงขึ้น ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่ประชาชนอเมริกาใช้อยู่ก็มีหลากหลาย ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งผลจากการเพิ่มกำแพงภาษีนั้นทำให้สินค้าต่างๆมีราคาสูงขึ้นด้วย ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้อัตราใช้จ่าย และใช้สอยสิ่งของต่างๆน้อยลง ส่งผลให้ผลกำไรของบริษัทต่างๆลดลงอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจมวลรวมต่างๆพากันถดถอยด้วยต้นทุนภาษีที่สูงขึ้น

สงครามนี้ใครจะได้ประโยชน์

     สงครามทุกสงครามส่วนใหญ่แล้วไม่มีใครได้ประโยชน์ มีแต่ฝ่ายเสียผลประโยชน์ทั้งนั้น ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้ได้ประโยชน์เสียทีเดียว คงต้องเรียกว่าฉวยโอกาส ซะมากกว่า จากการที่ภาษีนำเข้าสูงขึ้นทำให้บริษัทต่างๆผลกำไรตกลง ตลาดหุ้นก็ปรับตัวลงตามสภาพผลกำไรตามความเป็นจริง ณ จุดนี้ คงมีเพียงไม่กี่คนที่จะรู้ได้ว่า สงครามนี้จะจบลงอย่างไร หากสงครามใกล้จะจบแล้ว มีการทุ่มทุนซื้อธุรกิจต่างๆ ที่กำลังจะล้มละลาย แล้วปลดล็อคเพดานภาษี ก็คงเปรียบเสมือนปล้นธุรกิจด้วยนโยบาย ก็ว่าได้ แต่ก็อาจเป็นเพียงการมองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป อาจไม่ได้มีอะไรแบบนั้นก็ได้เพราะอนาคตไม่แน่นอน